ในยุคที่เทคโนโลยี AI, Data และ Cloud กลายเป็นโครงสร้างหลักของภาครัฐทั่วโลก
ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่การเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญ
จาก e-Government สู่ AI-Government
งานสัมมนา “AI-READY GOVERNMENT” เมื่อวันที่ วันที่ 28 ตุลาคม 2568 สถานที่ โรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ลุมพินี ห้องพิมาน1 ชั้น12. จัดขึ้นเพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองเชิงนโยบายและแนวทางปฏิบัติจริง ระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ผู้นำนวัตกรรม และผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีระดับประเทศ
พี่เชษ ได้รับเชิญบรรยาย ในหัวข้อ
“Trusted AI Governance : การกำกับดูแล AI เพื่อความเชื่อมั่นของประชาชน”
ประเด็นสำคัญที่นำเสนอในเวทีนี้คือ
“รัฐบาลอัจฉริยะจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้ หากปราศจากความไว้วางใจจากประชาชน”
พี่เชษได้แบ่งปันมุมมองเชิงนโยบายและแนวทางการสร้าง “ระบบ AI ที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ และยึดมนุษย์เป็นศูนย์กลาง” ครอบคลุมหัวข้อหลัก 6 ส่วน ได้แก่
- ความหมายของ Trusted AI Governance
- เหตุผลที่ “Trust” เป็นหัวใจของนวัตกรรมภาครัฐ
- บทเรียนจากโมเดล AI Governance ระดับโลก
- บริบทของประเทศไทยและโอกาสสู่การเป็น Trusted AI Hub of ASEAN
- กรอบแนวคิด “5 เสาหลักแห่งการกำกับดูแล AI ที่น่าเชื่อถือ”
- แผนปฏิบัติการ 3 ระดับ — นโยบาย, การดำเนินการ, และการสื่อสารกับประชาชน
แนวคิดสำคัญ: From Framework to Trust
AI Oversight ไม่ได้หมายถึง “การควบคุม” แต่คือ “การสร้างระบบความรับผิดชอบร่วม”
ที่ให้ทุกหน่วยงานสามารถตรวจสอบ แลกเปลี่ยน และพัฒนาอย่างโปร่งใส เพื่อให้เทคโนโลยีที่รัฐใช้ สร้างประโยชน์ต่อประชาชนได้อย่างแท้จริง
“Technology will make the government faster, but only Trust will make it truly accepted by its people.”
มุมมองส่วนตัวที่ผมอยากฝากไว้
“AI ไม่ได้วัดความสำเร็จที่ความฉลาดของระบบ แต่ที่ ‘ความเชื่อมั่นของคนในระบบ’”
“AI Governance ไม่ใช่เรื่องของเทคโนโลยีเพียงอย่างเดียว แต่คือเรื่องของความไว้วางใจที่รัฐบาลต้องสร้างให้กับประชาชนในทุกยุคดิจิทัล”
Technology will make us faster.
Governance will make us stronger.
But only Trust will make us together.
